วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

บิงซู น้ำแข็งใสเกล็ดหิมะ

♡บิงซู

“บิงซู (ฺBingsu)” 
เป็นน้ำแข็งใสเหมือนกันแต่สไตล์เกาหลี! ที่จุใจทั้งปริมาณน้ำแข็ง และจัดเต็มทั้งปริมาณท้อปปิ้ง พร้อมกับน้ำแข็งเนื้อละเอียดรสนมหวานๆ
จุดเด่นของบิงซู😊 
คือ น้ำแข็งใสนอกจากจะมีเนื้อที่ละเอียดละมุนลิ้นแล้ว จะมีรสชาติที่ออกหวาน โดยส่วนมากจะมีรสนม ช็อกโกแลต และชาเขียว
ประเภทของบิงซู🍵
1. แบบออริจินัลหรือคลาสสิคเรียกว่า พัตบิงซู (Patbingsu) คำว่า Pat แปลว่า ถั่วแดง จึงมีจุดเด่นอยู่ที่ถั่วแดง 
2. บิงซูผลไม้
3. บิงซูเพื่อสุขภาพ
4. บิงซูสไตล์แปลก
The Classic – พัตบิงซู (Patbingsu)
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ พัทบิงซู ถั่วแดง
          
    เชื่อกันว่า "พัตบิงซู" มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยราชวงศ์โชซ็อน (the Joseon Dynasty) แต่ไม่ปรากฎว่าใครเป็นผู้คิดเมนูนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ทานบิงซูนี้ต้องเป็นคนมีฐานะ และรวยเท่านั้น เพราะการจะทำให้น้ำแข็งมีเนื้อละเอียดเหมือนหิมะเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก โดยจะเสิรฟ์น้ำแข็งทุบละเอียดคู่กับถั่วแดงเชื่อม ซึ่งจะโป๊ะลงไปบนน้ำแข็งที่มีรสนมคล้ายนมข้นหวาน และอาจจะมีการเพิ่มถั่ว และเมล็ดธัญพืชในภายหลังซึ่งจะอยู่ข้างบนสุดของพัตบิงซู 

บิงซูผลไม้ (‘Fruit-full’ Bingsu)

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บิงซูผลไม้

          
สำหรับบิงซูที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบันคือ บิงซูผลไม้ เพราะถั่วแดงซึ่งเป็นส่วนผสมหลักในบิงซูแบบออริจินัลหรือพัตบิงซูให้ความหวานมาก และบางคนก็แพ้ถั่ว ดังนั้นการนำผลไม้สดๆ ไม่ว่าจะเป็นสตรอเบอร์รี่ มะม่วงหรือเมล่อน มาทานคู่กับน้ำแข็งรสหวานจึงได้รับความนิยม และเป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคน

บิงซูเพื่อสุขภาพ 
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บิงซูเพื่อสุขภาพ
          
          สำหรับผู้ที่รักสุขภาพหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวแล้ว การทานอะไรหวานๆ อาจจะเป็นเรื่องต้องห้าม แต่ก็มีอีกหนึ่งบิงซูที่นอกจากอร่อยแล้ว ยังดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ ซึ่งบิงซูเพื่อสุขภาพนี้ความหวานจะถูกลดระดับลง ส่วนท้อปปิ้งก็จะเลือกใช้ฟักทอง พุทรา หรือเมล็ดอัลมอนด์ และจะถูกเสิรฟ์ในถ้วยกระเบื้องพอร์ซเลนหรือทองเหลืองที่ตกแต่งมาอย่างสวยงาม และเลือกใช้นมถั่วเหลืองแทนนมข้นหวานด้วย
บิงซูสไตล์แปลก
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ บิงซูซากุระ
             
         มีพัตบิงซู มีบิงซูผลไม้ และบิงซูเพื่อสุขภาพกันไปแล้ว มาถึงบิงซูสไตล์แปลกกันบ้างค่ะ ซึ่งบิงซูสไตล์แปลกนี้ไม่ได้หากินได้ทั่วๆ ไป ต้องไปร้านเฉพาะ อย่างบิงซูเมล็ดต้นโกโก้ (cacao bingsu) บิงซูเกล็ดหิมะนม (snow flake milk bingsu) บิงซูซากุระ (cherry blossom bingsu) หรือบิงซูป็อปคอร์น (pop corn bingsu)
ร้านบิงซูยอดฮิต!!!👯
1.Seobinggo (서빙고 / ซอบิงโก)
2.Hollys Coffee
3.Snowfall House
4.The Wickedsnow Thailand
5. Softbee
แต่! เราสามารถทำเองได้ด้วยงบประมาณที่ถูกกกก!!
วัตถุดิบ😍
1) นมสดรสจืด 400 มล. แบบมีไขมัน - ห้ามใช้แบบไขมันต่ำหรือไขมัน 0% เป็นอันขาด
2) นมข้นหวาน 1 กระป๋อง
3) ไอคกรีมรสนม 1 ถ้วย - หากหาไม่ได้ให้ใช้รสวานิลลาก็ได้
4)ผลไม้ต่างๆตามชอบ แต่ผลไม้ที่ฮิตนำมาทำบิงซูคือ สตอว์เบอร์รรี่ มะม่วง เมล่อน และแตงโม
5) ถุงซิปล็อค
วิธีทำ👀
1) เทนมสดใส่ภาชนะสำหรับผสม
2) ตักนมข้นหวาน 4 ช้อนโต๊ะแบบพูนๆ ผสมลงไปในนมสด (สำหรับคนที่อยากให้หวานน้อยลงก็ปรับลดได้ตามสะดวกหรือจะไม่ใส่เลยก็ได้)
3) คนให้เข้ากัน
4) เทนมที่ผสมเรียบร้อยแล้วใส่ถุงที่เตรียมไว้
5) พยายามไล่อากาศออกให้เยอะที่สุดเท่าที่เป็นไปได้แล้วปิดปากถุง
6) จากนั้นก็เอาไปแช่ช่องฟรีสได้เลย โดยเอาวางนอนราบไว้
7) จากนั้นก็ตักไอติมที่เตรียมไว้ใส่ถุงเย็นอีกถุงนึง8) ปั้นเป็นก้อนกลมๆด้วยมือ
9) แล้วก็เอาไปยัดช่องฟรีสโลด
จากนั้นรอประมาณ 2-3 ชั่วโมงเพื่อให้นมแข็งตัวเป็นเกล็ด
3 ชั่วโมงผ่านไป
10) อีกอย่างที่แนะนำให้ยัดเข้าช่องฟรีสไปด้วยคือถ้วยที่จะเอาไว้ใส่บิงซู เพราะถ้าถ้วยไม่เย็นมันจะละลายเร็วมาก
11) เช็คถุงนมดูว่าตอนนี้แข็งเรียบร้อยแล้วหรือยัง หากแข็งแล้วให้เอาออกมาแล้วใช้ช้อนกดๆๆๆๆๆสับๆๆๆๆเพื่อให้มันแตกตัวเป็นเกล็ดละเอียด
12)ให้เอาถุงนมกลับเข้าไปแช่ช่องฟรีสอีกรอบ
13)ในระหว่างรอสามารถเตรียมผลไม้รอได้
17) เอาถ้วยที่แช่ไว้ในช่องฟรีสออกมาแล้วเทผลไม้ที่เตรียมไว้ลงไป
18) รอจนกระทั่งถุงนมที่แช่ไว้แข็งทั่วถุงอีกรอบ(ซึ่งน่าจะใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที)ให้เอาถุงนมออกมาแล้วบี้หรือสับด้วยช้อนจนแตกเป็นเกล็ดอีกรอบ
9) เทเกล็ดนมแข็งที่ได้ลงในถ้วยให้เรียบร้อย พร้อมตบๆให้โค้งๆเป็นกลมๆ
20)เอาผลไม้ส่วนหนึ่งมาตกแต่งรอบๆ
21) เอาไอศกรีมที่แช่ไว้มาวางโปะด้านบน
เสร็จเรียบร้อย! สามารถนำนมข้นหวานมาเทเพื่อเพิ่มความหวานได้และสามารถตกแต่งได้ตามใจชอบ และยังสามารถนำซอสมาราดได้เช่น บิงซูสตอว์เบอร์รี่สามารถนำซอสสตอว์เบอร์รี่มาราดเพิ่มความอร่่อยได้ตามใจชอบ

ที่มา:http://food.mthai.com/food-recommend/108580.html
http://www.ryoiireview.com/pr/what-is-bingsu-and-its-history/
https://nuuneoi.com/

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น